ในยุคที่บุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้น หลายคนอาจสงสัยว่าการนำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินได้ไหม กฎระเบียบเกี่ยวกับการขนส่งบุหรี่ไฟฟ้าต่างกันไปตามสายการบินและประเทศ โดยทั่วไปแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าสามารถนำขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องอยู่ในกระเป๋าถือและไม่ควรใช้ขณะอยู่บนเครื่องบิน
ผู้โดยสารควรตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินที่ตนใช้บริการก่อนเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่ต้องปฏิบัติตามด้วย การเตรียมตัวให้ดีจะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น
สิ่งของต้องห้ามและสิ่งของควบคุม
ห้ามพกบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินไปฮ่องกง
ผู้เดินทางไปฮ่องกงต้องทราบว่า บุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นสิ่งของต้องห้ามที่ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ กฎหมายของฮ่องกงมีข้อกำหนดชัดเจนในเรื่องนี้ ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา การนำบุหรี่ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องขึ้นเครื่องบินถือว่าผิดกฎหมาย ผู้โดยสารต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการเดินทาง
การตรวจสอบที่สนามบินจะเข้มงวดมาก หากพบเห็นบุหรี่ไฟฟ้าจะถูกยึดทันที และอาจมีโทษปรับหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ การนำเข้าอุปกรณ์หรือของเหลวที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้ายังต้องระวัง เพราะอาจถูกตรวจสอบและยึดได้
ห้ามชาร์จบุหรี่ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่บนเครื่องบิน
อีกหนึ่งข้อกำหนดสำคัญคือ การชาร์จบุหรี่ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ บนเครื่องบิน ผู้โดยสารไม่สามารถทำการชาร์จอุปกรณ์เหล่านี้ในระหว่างการเดินทางได้ เนื่องจากความเสี่ยงจากการเกิดไฟไหม้หรือระเบิดจากแบตเตอรี่ลิเธียม การใช้พลังงานในขณะเดินทางจำเป็นต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยสูงสุด
สายการบินส่วนใหญ่มีนโยบายชัดเจนในเรื่องนี้ โดยจะมีการแจ้งเตือนผู้โดยสารก่อนเที่ยวบินถึงข้อห้ามดังกล่าว หากผู้โดยสารฝ่าฝืน อาจถูกลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา
บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสิ่งของต้องห้ามตามกฎหมายของฮ่องกง
ตามกฎหมายของฮ่องกง บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามอย่างชัดเจน ตั้งแต่ปี 2021 ฮ่องกงได้ออกมาตรการควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด การขายและการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่สาธารณะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกปรับเงินจำนวนมาก
รัฐบาลฮ่องกงมุ่งหวังที่จะลดการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ การควบคุมนี้มีผลกระทบต่อผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวที่ต้องการนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศ ดังนั้น ควรศึกษากฎระเบียบให้ละเอียดก่อนเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
สิ่งของควบคุม
สารสกัดจากกัญชง
สารสกัดจากกัญชง หรือ CBD ถือว่าเป็นยาอันตรายภายใต้กฎหมายของฮ่องกง การนำสารนี้ขึ้นเครื่องบินจึงถือว่าผิดกฎหมาย ผู้เดินทางต้องระมัดระวังในการพกพา หากมีการตรวจสอบและพบจะมีโทษตามกฎหมายทันที
การศึกษากฎหมายในประเทศที่เดินทางไปจึงสำคัญมาก ผู้เดินทางควรตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีกฎระเบียบเกี่ยวกับ CBD หรือไม่ กฎหมายของแต่ละประเทศแตกต่างกันอย่างมาก
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผู้โดยสารสามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่กำหนด โดยทั่วไปแล้ว อนุญาตให้พกพาได้ไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อขวด และรวมกันไม่เกิน 1 ลิตร
หากมีการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สนามบิน หลังจากผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยแล้ว จะต้องเก็บไว้ในถุงพลาสติกที่ปิดผนึก เพื่อป้องกันการเปิดใช้งานระหว่างการเดินทาง
กฎระเบียบของประเทศปลายทาง
ก่อนที่จะเดินทาง ควรตรวจสอบกฎระเบียบของประเทศปลายทางเกี่ยวกับสิ่งของควบคุม เช่น อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่อาจมีข้อจำกัด
บางประเทศมีข้อห้ามในการนำเข้าผลิตภัณฑ์บางชนิด เช่น ยาสูบหรือผลิตภัณฑ์จากพืชบางประเภท การไม่รู้ข้อกำหนดเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาได้
การศึกษาข้อมูลเหล่านี้ก่อนเดินทาง สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการถูกจับหรือถูกปรับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เดินทางไปยังประเทศที่มีกฎหมายเข้มงวด
กฎระเบียบสำหรับสัมภาระทั้งหมด
ขนาดและน้ำหนัก
ผู้โดยสารต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของสายการบินเกี่ยวกับน้ำหนักและขนาดของสัมภาระ สายการบินแต่ละแห่งมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน บางสายการบินอนุญาตให้ถือสัมภาระได้ไม่เกิน 7-10 กิโลกรัมในห้องโดยสาร ขนาดสูงสุดมักจะอยู่ที่ประมาณ 55 x 40 x 20 เซนติเมตร
หากนำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่อง ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถบรรจุในสัมภาระถือขึ้นเครื่องได้ นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงการนำแบตเตอรี่ลิเธียมที่มีความจุมากเกินไป เพราะอาจถูกจำกัดตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัย
สิ่งของต้องห้าม
หลีกเลี่ยงการนำสิ่งของต้องห้ามใส่ในสัมภาระ อาทิ ของมีคม เช่น มีดหรือกรรไกร รวมถึงวัตถุระเบิดหรือสารเคมีอันตราย บุหรี่ไฟฟ้าเองก็อยู่ในกลุ่มสินค้าที่ต้องตรวจสอบให้ดี
บางประเทศอาจมีกฎระเบียบเฉพาะเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า การนำเข้าหรือใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจผิดกฎหมาย ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนเดินทาง
ข้อกำหนดของเหลวและเจล
ตรวจสอบข้อกำหนดเกี่ยวกับของเหลวและเจลในสัมภาระถือขึ้นเครื่อง สายการบินส่วนใหญ่กำหนดให้ของเหลวไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อขวด และรวมกันไม่เกินหนึ่งลิตรในถุงพลาสติกใส
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นของเหลวที่ต้องปฏิบัติตามกฎนี้ หากผู้โดยสารต้องการนำไปด้วย ควรแบ่งใส่ขวดขนาดเล็กและจัดเก็บในถุงพลาสติกตามข้อกำหนด
การเตรียมตัวอย่างดีก่อนเดินทางช่วยลดปัญหาได้มาก ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์สายการบิน หรือสอบถามเจ้าหน้าที่เพื่อความชัดเจน
สิ่งของควบคุมซึ่งอนุญาตให้พกพาขึ้นเครื่องได้
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม ขนาดของแบตเตอรี่มีความสำคัญต่อการนำขึ้นเครื่องบิน การนำแบตเตอรี่ลิเธียมขนาดใหญ่เกิน 100 วัตต์ชั่วโมงขึ้นเครื่องบินจะถูกจำกัด ผู้โดยสารต้องตรวจสอบขนาดของแบตเตอรี่ก่อนเดินทาง หากมีข้อสงสัย ควรสอบถามสายการบินเพื่อความแน่ใจ
การพกพาบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องต้องทำตามกฎระเบียบที่กำหนด โดยทั่วไปแล้วผู้โดยสารสามารถนำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องได้ แต่ไม่ควรใช้งานในระหว่างการบิน นอกจากนี้ สายการบินบางแห่งอาจมีกฎเฉพาะเกี่ยวกับการนำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่อง ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลจากสายการบินก่อนเดินทางเสมอ
ยารักษาโรค
ยาที่มีใบสั่งแพทย์สามารถนำขึ้นเครื่องได้ โดยผู้โดยสารควรมีเอกสารที่ชัดเจน เช่น ใบสั่งยา เพื่อแสดงความจำเป็นในการใช้ยา ยาบางชนิดอาจมีข้อกำหนดพิเศษในการพกพา เช่น ยาที่ต้องเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม หรือยาที่มีส่วนผสมของสารควบคุม
หากผู้โดยสารมีความจำเป็นต้องใช้ยาในระหว่างการเดินทาง ควรเตรียมยาไว้ในกระเป๋าถือ และไม่ควรเก็บไว้ในสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่อง เพื่อความสะดวกในการเข้าถึง
อุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์
อุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ผู้โดยสารควรแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินล่วงหน้าก่อนเดินทาง เพื่อให้สามารถจัดเตรียมพื้นที่และความสะดวกในการใช้งานได้
บางครั้ง อุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์อาจต้องได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติม จึงควรเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้พร้อม เช่น ใบรับรองจากแพทย์ เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว
สรุป
ผู้โดยสารควรตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินเกี่ยวกับสิ่งของที่อนุญาตให้พกพาขึ้นเครื่อง การรู้จักประเภทของสิ่งของและเงื่อนไขต่างๆ จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น บุหรี่ไฟฟ้า, ยารักษาโรค และอุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์ เป็นตัวอย่างของสิ่งของที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้
สิ่งของควบคุมซึ่งอนุญาตให้ใส่ไว้ในสัมภาระเช็คอินได้
การเดินทางโดยเครื่องบินมีกฎระเบียบที่ชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งของที่ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวไปได้ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงสัมภาระเช็คอิน สิ่งของบางประเภทมีข้อกำหนดเฉพาะในการจัดเก็บ ซึ่งรวมถึง ของเหลวที่มีปริมาณเกิน 100 มิลลิลิตร
ของเหลว
ผู้โดยสารไม่สามารถนำของเหลวที่มีปริมาณเกิน 100 มิลลิลิตรขึ้นเครื่องบินในกระเป๋าถือมือได้ แต่สำหรับสัมภาระเช็คอินนั้น สามารถบรรจุของเหลวในปริมาณมากได้ เช่น น้ำ, น้ำหอม หรือเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบกฎระเบียบของสายการบินและประเทศปลายทางก่อนเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากในวันเดินทาง
อุปกรณ์กีฬา
อุปกรณ์กีฬา เช่น ไม้กอล์ฟหรือไม้เทนนิส สามารถใส่ไว้ในสัมภาระเช็คอินได้ แต่ต้องมีการบรรจุอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันความเสียหาย ขนาดและน้ำหนักอาจแตกต่างกันไปตามสายการบิน ควรตรวจสอบข้อมูลนี้ล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาในการโหลดสัมภาระ
เครื่องมือช่าง
เครื่องมือช่างที่ไม่มีคมก็เป็นอีกหนึ่งรายการที่สามารถนำไปในสัมภาระเช็คอินได้ เช่น ประแจ, ไขควง หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้โดยสาร อย่างไรก็ตาม หากเครื่องมือเหล่านี้มีขนาดใหญ่หรือหนัก อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากสายการบิน ผู้โดยสารควรเตรียมตัวให้พร้อมในการตรวจสอบสัมภาระที่สนามบิน
การเตรียมตัวก่อนเดินทางเป็นสิ่งสำคัญ ผู้โดยสารควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งของที่อนุญาตและไม่อนุญาต เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ การบรรจุสัมภาระอย่างเหมาะสมยังช่วยลดโอกาสในการเกิดความเสียหายต่อสิ่งของขณะเดินทาง
เพื่อให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น ผู้โดยสารควรทำตามคำแนะนำด้านความปลอดภัย และอย่าลืมตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากสายการบินก่อนออกเดินทาง การรู้จักกฎระเบียบเหล่านี้จะช่วยให้คุณผ่านขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
สิ่งของที่ต้องควบคุมต่อไปนี้จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบด้วยสายตาก่อนที่จะเดินทาง
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่ เช่น แล็ปท็อป จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนขึ้นเครื่องบิน ผู้โดยสารต้องนำแล็ปท็อปออกจากกระเป๋าและวางไว้ในถาดตรวจสอบ สิ่งนี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น
กฎระเบียบนี้มีผลตั้งแต่ปี 2017 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการบิน การตรวจสอบอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น วัตถุระเบิดหรือวัตถุที่เป็นอันตราย
อุปกรณ์ถ่ายภาพ
อุปกรณ์ถ่ายภาพ เช่น กล้อง DSLR และเลนส์ ต้องได้รับการตรวจสอบด้วยเช่นกัน ผู้โดยสารควรนำกล้องออกจากกระเป๋าและวางลงในถาด ตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีวัตถุที่เป็นอันตรายซ่อนอยู่
กฎนี้มีมาตั้งแต่ปี 2016 โดยเฉพาะในเที่ยวบินระหว่างประเทศ การทำเช่นนี้ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
อุปกรณ์เสริมที่มีแบตเตอรี่สำรอง
อุปกรณ์เสริมที่มีแบตเตอรี่สำรอง เช่น พาวเวอร์แบงค์ ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวด แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนถือเป็นสิ่งของที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้โดยสารต้องเก็บแบตเตอรี่เหล่านี้ไว้ในสัมภาระมือเท่านั้น
ตั้งแต่ปี 2018 กฎนี้ได้ถูกบังคับใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปลอดภัยบนเครื่องบิน การตรวจสอบช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมและจัดการกับแบตเตอรี่ได้อย่างเหมาะสม
ข้อสรุป
การเตรียมตัวก่อนเดินทางเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้โดยสารควรทราบว่ามีสิ่งของหลายประเภทที่ต้องได้รับการตรวจสอบก่อนขึ้นเครื่องบิน เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในเที่ยวบิน การปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
สิ่งของที่ถูกยึด
บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
บุหรี่ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในสิ่งของที่หลายคนสงสัยว่าจะสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ ตามกฎของการบินระหว่างประเทศ บุหรี่ไฟฟ้าสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ แต่ต้องอยู่ในสัมภาระถือขึ้นมือเท่านั้น ห้ามเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางที่จะโหลดใต้ท้องเครื่อง
ผู้โดยสารควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ของบุหรี่ไฟฟ้าได้รับการป้องกันอย่างเหมาะสม การป้องกันนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การลัดวงจรหรือการระเบิด นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการใช้บุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบิน เนื่องจากอาจทำให้เกิดปัญหากับกฎระเบียบของสายการบิน
สารเสพติดและยาอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาต
สารเสพติดและยาอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นสิ่งของที่ถูกยึดอย่างเคร่งครัด การนำเข้าสารเหล่านี้มีผลทางกฎหมายที่รุนแรง ผู้โดยสารต้องหลีกเลี่ยงการนำสารเสพติดเช่น โคเคน, เฮโรอีน และยาที่ผิดกฎหมายอื่นๆ ขึ้นเครื่องบิน
ประเทศส่วนใหญ่มีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบสิ่งของที่นำขึ้นเครื่องบิน การตรวจสอบจะดำเนินการทั้งก่อนขึ้นเครื่องและขณะอยู่ในสนามบิน หากพบว่ามีสารต้องห้าม ผู้โดยสารจะถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมาย
อาวุธหรือวัตถุระเบิดทุกชนิ
อาวุธและวัตถุระเบิดทุกชนิดถือเป็นสิ่งของต้องห้ามบนเครื่องบิน กฎระเบียบนี้รวมถึงอาวุธปืน, ระเบิด และวัตถุอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้โดยสารหรือทีมงาน
การตรวจสอบเพื่อค้นหาอาวุธจะมีความเข้มงวดมาก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามบินจะใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสูงในการตรวจสอบสัมภาระ หากพบว่าวัตถุดังกล่าวอยู่ในสัมภาระ จะมีการดำเนินการตามกฎหมายทันที
ข้อบังคับเหล่านี้มีความสำคัญเพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนเครื่องบิน การเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งของที่ถูกยึดช่วยให้ผู้โดยสารเตรียมตัวได้ดีขึ้นก่อนเดินทาง
สรุป
การนำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินนั้นมีข้อกำหนดและกฎระเบียบที่คุณต้องรู้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในสนามบิน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจสิ่งของควบคุมและสิ่งของที่อนุญาตให้พกพาได้ การเตรียมตัวให้ดีช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น
อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการเดินทาง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะไม่ประสบปัญหาใด ๆ ในขณะเดินทาง หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน อย่าลังเลที่จะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือติดต่อสายการบินเพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องและชัดเจน
คำถามที่พบบ่อย
บุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินได้ไหม?
บุหรี่ไฟฟ้าสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ แต่ต้องอยู่ในสัมภาระถือขึ้นเครื่องเท่านั้น ห้ามใส่ในสัมภาระเช็คอิน
ต้องมีการตรวจสอบอะไรบ้างเมื่อพกบุหรี่ไฟฟ้า?
บุหรี่ไฟฟ้าจะต้องผ่านการตรวจสอบด้วยสายตาที่จุดตรวจความปลอดภัย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอันตราย
สามารถนำของเหลวสำหรับบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่องได้หรือไม่?
สามารถนำของเหลวสำหรับบุหรี่ไฟฟ้าได้ แต่ต้องไม่เกิน 100 มิลลิลิตรต่อขวด และรวมไม่เกิน 1 ลิตรทั้งหมด
มีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนบุหรี่ไฟฟ้าที่นำขึ้นเครื่องไหม?
ไม่มีข้อจำกัดเฉพาะเกี่ยวกับจำนวน แต่ควรพิจารณาน้ำหนักและขนาดของสัมภาระถือขึ้นเครื่อง
ถ้าบุหรี่ไฟฟ้าถูกยึดจะทำอย่างไร?
ถ้าบุหรี่ไฟฟ้าถูกยึด คุณสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามรายละเอียดและขั้นตอนการคืนของ
ข้อกำหนดในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบินเป็นอย่างไร?
การใช้บุหรี่ไฟฟ้าบนเครื่องบินถือว่าผิดกฎหมาย ห้ามสูบในทุกพื้นที่ของเครื่องบิน
มีประเทศไหนบ้างที่ห้ามนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้าประเทศ?
หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ มีข้อห้ามในการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ควรตรวจสอบกฎระเบียบก่อนเดินทาง